Mind Network: การปฏิวัติ Web3 Security and Privacy with Fully Homomorphic Encryption
Mind Network เปิดตัว Testnet “Trust Layer”
สุดยอดนวัตกรรม: Mind Network ผสมผสานเทคโนโลยี Fully Homomorphic Encryption เข้ากับ Stealth Address Protocol (FHE DK-SAP) เพื่อสร้างระบบโอนมูลค่าที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว แก้ปัญหาสองด้านพร้อมกัน:
1.) ความต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลบน Web3
2.) โปรโตคอลความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับ Web2 และระบบการเงินแบบดั้งเดิมที่จะเข้าสู่ Web3 โดยยังคงปฏิบัติตามกฎระเบียบ
การยอมรับและความน่าเชื่อถือ: Mind Network ได้รับเงินสนับสนุนจาก Ethereum Grant และชนะการแข่งขัน EthSingapore Hackathon นอกจากนี้ นักลงทุนที่น่าเชื่อถืออย่าง Binance Labs, Hashkey, Comma3, SevenX และรายอื่นๆ อีกมากมาย ก็ให้การสนับสนุน โดยได้รับการบ่มเพาะจากโปรแกรม Incub
ข้อมูล คือ สิทธิ์ของมนุษย์
โครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายอำนาจ (decentralized infrastructure) มีข้อดีในการรักษาความถูกต้องของธุรกรรมแต่ละรายการและการเข้าถึงข้อมูลบนบล็อกเชน แต่ยังขาดการปกป้องความลับที่แข็งแกร่ง ชี้ให้เห็นโดย Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum ที่เน้นย้ำเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นความท้าทายสำคัญของ Ethereum และทำนายความล้มเหลวหากไม่ได้รับการแก้ไข Citibank ยังระบุ “privacy” และ “strong guarantees of security” เป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับ Web3 ที่จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และ SWIFT เน้นย้ำในเอกสาร whitepaper ล่าสุดว่า ความเป็นส่วนตัวและการกำกับข้อมูลเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดสำหรับหน่วยงานสถาบัน
อย่างไรก็ตาม โซลูชันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายด้านความแตกแยก ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ และระบบนิเวศที่ยังไม่พัฒนา Mind Network สร้างผลิตภัณฑ์ด้วยมุมมองที่ว่า ข้อมูลเป็นสิทธิ์ของมนุษย์ และต้องการยุคใหม่ของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เริ่มต้นด้วยการอัปเกรด “end-to-end encryption”
ความปลอดภัยใน Web3: พัฒนาการที่จำเป็น
จากการศึกษาของ Citibank และ SWIFT พบว่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลบนบล็อกเชน (on-chain data) เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมและนักลงทุนที่อยู่ภายใต้กฎระเบียบเข้าสู่ Web3 ได้ เราสามารถสรุปวิวัฒนาการของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวใน Web3 ได้เป็น 3 ช่วง:
เฟส 1:The Wild West ดินแดนตะวันตกอันแสนดุเดือด ช่วงนี้มีกฎระเบียบ การฟอกเงินและการหลอกลวงเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย
เฟส 2: Emerging Regulatory Framework เป็นเฟสปัจจุบัน มีบริษัทขนาดใหญ่และสถาบันต่างๆ เข้ามาทดลองใช้งานโทเค็น
เฟส 3: The Full Transition into Web3 การเปลี่ยนผ่านสู่ Web3 เต็มรูปแบบ เฟสอนาคตที่จะมี privacy layers อยู่ในระดับ infrastructure ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลประจำตัวและกิจกรรมบนเว็บทั้งหมด รวมถึง KYC, AML, บันทึกธุรกรรม บันทึกข้อความ และการโต้ตอบกับ AI เทคโนโลยี Fully Homomorphic Encryption (FHE) มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้เฟสนี้เกิดขึ้นได้จริง
Mind Network: ผู้บุกเบิก Zero Trust ใน Web3
Mind Network สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่! เป็นบริษัทแรกที่นำ “Zero Trust” มาใช้จริงในระบบนิเวศ Web3 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมนี้
ทำไม Zero Trust จึงสำคัญ?
รายงาน Crypto Theses of 2024 โดย Messari คาดการณ์ว่า เทคโนโลยี Fully Homomorphic Encryption (FHE) จะถูกนำไปใช้เพื่อ:
- ชำระเงินแบบส่วนตัว
- เล่นเกมโดย Zero Trust
- ลงคะแนนเลือกตั้งแบบลับ
- สร้างโมเดล Machine Learning แบบส่วนตัว
- สร้างเศรษฐกิจข้อมูลแบบส่วนตัว
การนำ Zero Trust มาใช้ร่วมกับ FHE ช่วยให้ Web3 บรรลุเป้าหมายสูงสุดในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและมอบสิทธิ์การควบคุมข้อมูลให้กับผู้ใช้
Mind Network นำทางอนาคตของ Web3:
- โดยการประยุกต์ใช้ Zero Trust และ FHE อย่าง Mind Network ได้เปิดทางสู่ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในระดับที่เหนือกว่า
- นี่คือก้าวสำคัญที่จะทำให้ Web3 เป็นระบบที่น่าเชื่อถือ มั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน
แนะนำแนวทาง Zero Trust
Zero Trust Layer โดย Mind Network มุ่งขจัดปัญหาความปลอดภัยแบบแยกส่วนในบล็อกเชน นำเสนอความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรม แต่ยังสามารถตรวจสอบได้ มีการเข้ารหัส แบบ quantum-resistant ช่วยให้มั่นใจว่าเฉพาะเจ้าของข้อมูลเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลของตนได้ และอนุญาตให้บุคคลที่สามตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด โซลูชัน Zero Trust นี้สร้างขึ้นด้วยคุณสมบัติหลักสองประการ:
- FHE Dual-Key Stealth Address Protocol (MindSAP) โปรโตคอลนี้สร้างที่อยู่ที่ไม่สามารถติดตามได้ แต่ยังตรวจสอบได้ โดยใช้เทคโนโลยี Fully Homomorphic Encryption (FHE)
- FHE+ZKP Data Rollup (MindLake) เทคโนโลยีนี้รวบรวมข้อมูลจำนวนมากโดยใช้ FHE และ Zero Knowledge Proof (ZKP) ช่วยให้ประมวลผลข้อมูลโดยไม่เปิดเผยเนื้อหา จึงเพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นส่วนตัว
เทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้กับเลเยอร์บล็อกเชนต่างๆ (L0, L1, L2 ฯลฯ) DApps กระเป๋าเงิน และแม้แต่สถาบันการเงินแบบดั้งเดิม
Protocol FHE-DKSAP: ความลับแห่งนวัตกรรม
Mind Network ได้พัฒนาโปรโตคอล FHE-DKSAP (Fully Homomorphic Encryption-based Dual-key Stealth Address Protocol) ผ่านFellowship ของ Ethereum Foundation และได้รับทุนสนับสนุนจาก Ethereum Grant นวัตกรรมนี้เป็นการผสมผสานการเข้ารหัสลับ Fully Homomorphic Encryption (FHE) กับเทคโนโลยีของ Stealth Address เพื่อยกระดับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของธุรกรรม ซึ่งได้รับความสนใจจากบุคคลสำคัญอย่าง Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum อีกด้วย
ประยุกต์ใช้ Zero Trust Layer อย่างหลากหลาย
เทคโนโลยี Zero Trust Layer ของ Mind Network สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ดังตัวอย่างต่อไปนี้:
1. การโยกย้ายระหว่าง CBDC Chain กับ Public Chain:
- ปัจจุบันกว่า 110 ประเทศกำลังทดลองใช้ CBDC (Central Bank Digital Currency)
- Mind Network ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารที่ปลอดภัยและตรงตามข้อกำหนดระหว่าง CBDC national chain กับ Web3
2. การโยกย้ายระหว่าง Bank Chain กับ Public Chain:
- Zero Trust Layer ของ Mind Network มีบทบาทสำคัญในตลาด Real-World Assets (RWA) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
- ในฐานะที่เป็นพันธมิตรด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวรายเดียวของ Chainlink CCIP, Mind Network กำลังแก้ไขปัญหาความต้องการนี้โดยนำ Zero Trust มาใช้กับเลเยอร์การทำธุรกรรมของสินทรัพย์เหล่านี้
3. การโยกย้ายระหว่าง Public Chain กับ Public Chain:
- ร่วมมือกับ Chainlink CCIP, Mind Network ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการถ่ายโอนข้อมูลที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวระหว่างเครือข่ายสาธารณะต่างๆ ทำให้โซลูชันสะพานเชื่อมต่อต่างๆ น่าเชื่อถือมากขึ้น
4. เสริมความเป็นส่วนตัวภายใน Chain เดียว:
- ในฐานะโซลูชันที่ชนะรางวัลอันดับ 1 จาก MetaMask ETHSG Hackathon, Mind Network มอบความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการโอนภายใน Chain, การสวับเหรียญ, การ staking เป็นต้น
- นอกจากนี้ยังสามารถปฏิบัติตามกรอบกฎระเบียบจากภูมิภาคต่างๆ
5. BTC Bridge:
- นำเสนอความสามารถในการโอนและเชื่อมต่อโดยใช้การเข้ารหัส witness encryption เพื่อให้ผู้ใช้และผู้สร้าง BTC มีความปลอดภัยข้าม Chain ในระดับใหม่ และช่วยลดการแบ่งแยกสภาพคล่องของ BTC
6. การปกป้องข้อมูลสำหรับ AI:
- ในฐานะ data privacy rollup สำหรับโซลูชัน DePin, Mind Network เข้ารหัสข้อมูลด้วยคีย์ส่วนตัวของผู้ใช้ และอนุญาตให้แอปพลิเคชัน AI ประมวลผลข้อมูลนั้นโดยไม่ต้องถอดรหัส Mind Network ได้ร่วมมือและบูรณาการกับ Filecoin, Arweave และ Greenfield ในกรณีการใช้งานต่างๆ
Mind Network: นวัตกรรมที่สำคัญต่อโลก
เทคโนโลยีของ Mind Network กำลังถูกใช้งานโดยองค์กรชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก เช่น Chainlink CCIP, MetaMask, ธนาคารกลาง, ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง และนักลงทุนสถาบัน ความนิยมใช้เทคโนโลยีของ Mind Network เหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในแวดวงการเงินแบบดั้งเดิมและโลกคริปโต
Zero Trust Layer: ก้าวล้ำไปอีกขั้น
เทคโนโลยี Zero Trust Layer ของ Mind Network เปรียบเสมือนการปฏิวัติครั้งใหญ่ด้านความปลอดภัยของข้อมูล นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของอินเทอร์เน็ต ด้วยการสร้าง “การเข้ารหัสแบบครบวงจร” (end-to-end encryption) รูปแบบใหม่ที่แก้ไขปัญหาพื้นฐานของบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ ทั้งเพิ่มการปกป้องข้อมูล, สร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมข้ามเครือข่าย และรองรับกฎระเบียบต่างๆ
ในขณะที่ Web3 ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Mind Network ยืนหยัดเป็นผู้นำ ด้วยการวางรากฐานอนาคตที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมเป็นหัวใจสำคัญ